กษ.เปิดแจ้งบัญชีเกษตรกรเพาะปลูกรอบใหม่ไม่เกี่ยวเยียวยาโควิด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรแจ้งแก่เกษตรกรทั่วประเทศให้ขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรประจำปี 2563 หลังเพาะปลูกแล้ว 15 วัน โดยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หากเกษตรกรไม่ต้องการเดินทางมายังสำนักงานเกษตรอำเภอสามารถแจ้งการเพาะปลูกในสมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ซึ่งดาวน์โหลดได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และ iOS เข้าใช้งานด้วยเลขทะเบียนเกษตรกร 12 หลักที่อยู่หน้าแรกของสมุดทะเบียนเกษตรกร (เล่มเขียว) 

ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน Farmbook พัฒนาขึ้น เพื่อบริการเกษตรกรในการติดตามและตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ติดตามสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมทั้งการขอรับความช่วยเหลือกรณีเกิดพิบัติภัย ทำให้พืชผลเสียหาย


สำหรับการแจ้งการเพาะปลูกประจำปีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการรับสิทธิ์เงินเยียวยาเกษตรกรจากผลกระทบจากของโควิด-19 ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ โดยจ่ายเงินเยียวยาให้แล้ว 2 งวด ส่วนงวดที่ 3 ของเดือนกรกฎาคมคาดว่าจะจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยจะจ่ายครบภายในสิ้นเดือน

นายอาชว์ชัยชาญ  เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Farmbook กว่า 2.5 ล้านเครื่อง จากเกษตรกรทั้งหมด 7.5 ล้านครัวเรือน ในช่วงเดือนพฤษภาคมปิดเมนูการแจ้งปลูกผ่านแอปพลิเคชันชั่วคราว เนื่องจากมีการปรับปรุงข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์การช่วยเหลือจากการระบาดของโควิด-19 พร้อมกันจำนวนมากทั้งผ่านแอปพลิเคชันและที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ส่งผลให้การปรับปรุงข้อมูลของเจ้าหน้าที่และการใช้งานแอปพลิชันเกิดความล่าช้าและอาจเกิดความผิดพลาดของข้อมูลในการแจ้งปลูกได้ จึงได้ปิดเมนูการแจ้งปลูกผ่านแอปพลิเคชั่น Farmbook เพื่อให้เจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่สามารถดำเนินการได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว


จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จึงขอให้เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานและไม่มีแหล่งน้ำในพื้นที่เลื่อนการเพาะปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน และเริ่มปลูกข้าวกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งปริมาณฝนจะตกใกล้เคียงค่าปกติ

อีกทั้งควรปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกข้าวเป็นการปลูกข้าวแบบหว่านแห้ง (หว่านสำรวย) ซึ่งเป็นการหว่านในสภาพดินแห้งเหมาะสมกับพื้นที่นอกเขตชลประทาน เมื่อหว่านเมล็ดข้าวลงแปลงแล้วรอฝนตกลงมาเมล็ดข้าวจะงอก จากนั้นดูแลรักษาต่อไปจนเก็บเกี่ยว สำหรับพืชอื่น ๆ ให้เกษตรกรรักษาความชื้นในแปลงปลูกพืชและลดการคายน้ำของพืช เช่น การรดน้ำให้กับพืชในช่วงเช้าและเย็นเพื่อลดการระเหยของน้ำ ใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นคลุมแปลงหรือหน้าดิน ได้แก่ ฟางข้าว ใบไม้ หรือหญ้าแห้งเพื่อรักษาความชื้นในดิน


รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรควรเลือกใช้ระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับชนิดพืช เช่น ไม้ผลให้ใช้ระบบมินิสปริงเกลอร์  ซึ่งเป็นระบบให้น้ำแบบฉีดฝอยขนาดเล็กเป็นการให้น้ำแก่พืชเป็นวงบริเวณรากพืช โดยมีการควบคุมปริมาณน้ำตามความต้องการของพืช น้ำจะถูกพ่นออกจากหัวฉีดฝอย

การให้น้ำแบบนี้จึงไม่มีการสูญเสียน้ำระหว่างการส่งน้ำ การสูญเสียน้ำที่ไหลเลยเขตรากพืช หรือไหลนองไปตามผิวดินก็มีน้อย นอกจากนั้นยังสามารถใส่ปุ๋ย หรือสารเคมีลงไปในน้ำระหว่างการให้น้ำพร้อมกันได้ สำหรับ พืชไร่และพืชผัก แนะนำให้ใช้ระบบน้ำหยด ซึ่งเป็นการให้น้ำแก่พืชผ่านระบบท่อและปล่อยน้ำออกทางหัวน้ำหยดที่ติดตั้งไว้บริเวณโคนต้นพืช น้ำจะหยดซึมลงมาบริเวณรากช้าๆ เพื่อรักษาความชื้นของดินบริเวณรากพืชให้อยู่ในระดับที่รากพืชสามารถดูดไปใช้ได้ง่าย ทำให้พืชเจริญเติบโต






ความคิดเห็น