ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 12 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ณ อาคารรัฐสภา ชั้น 2 ถนนสามเสน กรุงเทพมหานคร ได้มีการนำเสนอวาระหมวดเรื่องที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในการพิจารณา (ร่าง) พ.ร.บ. กองทุนฟื้นฟูฯ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... นำเสนอวาระโดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา
ในประเด็นขอแก้ไข พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (พ.ร.บ.) ใน 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 16 การดำรงตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกร ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ เมื่อครบกำหนดวาระ หากยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรขึ้นใหม่
ให้กรรมการดังกล่าว อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ และการการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมการดังกล่าว ให้สำนักงานดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันครบวาระ , มาตรา 23 ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสาขาจังหวัด ให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ให้มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล และอาจตั้งสาขา ณ ที่อื่นใด ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ,
รวมทั้งมาตรา 37/9 ปรับปรุงแก้ไขวิธีการชำระหนี้แทนเกษตรกร กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกันและใช้บุคคลค้ำประกัน โดยเมื่อกองทุนรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรแล้ว การจัดการหนี้ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.กรณีที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ให้ทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกัน ตกเป็นของกองทุน และเกษตรกรจะได้รับทรัพย์สินคืนได้ก็แต่โดยการเช่าซื้อหรือซื้อ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรรมการกำหนด
2.กรณีมีบุคคลค้ำประกัน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด โดยที่ประชุมวันนี้มีมติอนุมัติเห็นชอบ (ร่าง) ดังกล่าว ซึ่งจากการลงคะแนนเพื่อขอมติ มีผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ จำนวน 390 คน เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว 385 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ซึ่งมติเห็นชอบ (ร่าง) ดังกล่าว จะมีการนำผลการรับรองส่งไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้
ในการนี้ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานกรรมการบริหาร ในตำแหน่งคณะกรรมาธิการฯเข้าร่วมในการพิจารณาเห็นชอบใครั้งนี้ และนายสไกร พิมพ์บึง รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้เข้าร่วมในเวทีอภิปรายสภาเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้กับคณะกรรมาธิการในการนำเสนอด้วย
ในประเด็นขอแก้ไข พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (พ.ร.บ.) ใน 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 16 การดำรงตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกร ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ เมื่อครบกำหนดวาระ หากยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรขึ้นใหม่
ให้กรรมการดังกล่าว อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ และการการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมการดังกล่าว ให้สำนักงานดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันครบวาระ , มาตรา 23 ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสาขาจังหวัด ให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ให้มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล และอาจตั้งสาขา ณ ที่อื่นใด ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ,
รวมทั้งมาตรา 37/9 ปรับปรุงแก้ไขวิธีการชำระหนี้แทนเกษตรกร กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกันและใช้บุคคลค้ำประกัน โดยเมื่อกองทุนรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรแล้ว การจัดการหนี้ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.กรณีที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ให้ทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกัน ตกเป็นของกองทุน และเกษตรกรจะได้รับทรัพย์สินคืนได้ก็แต่โดยการเช่าซื้อหรือซื้อ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรรมการกำหนด
2.กรณีมีบุคคลค้ำประกัน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด โดยที่ประชุมวันนี้มีมติอนุมัติเห็นชอบ (ร่าง) ดังกล่าว ซึ่งจากการลงคะแนนเพื่อขอมติ มีผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ จำนวน 390 คน เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว 385 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ซึ่งมติเห็นชอบ (ร่าง) ดังกล่าว จะมีการนำผลการรับรองส่งไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้
ในการนี้ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานกรรมการบริหาร ในตำแหน่งคณะกรรมาธิการฯเข้าร่วมในการพิจารณาเห็นชอบใครั้งนี้ และนายสไกร พิมพ์บึง รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้เข้าร่วมในเวทีอภิปรายสภาเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้กับคณะกรรมาธิการในการนำเสนอด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น