"ทีมพลังรักษ์สหกรณ์"ชูนโยบายสร้างสมาชิกเข้มแข็ง

ทีมพลังรักษ์สหกรณ์ นำโดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม พร้อมด้วยพล.ต.ท.วิโรจน์ สัตยสัณห์สกุล และผู้สมัครในนามทีมพลังรักษ์สหกรณ์ ร่วมแถลงนโยบายลงสมัครเลือกตั้งประธาน และคณะกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยจำกัด (ชสอ.) ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ

นายปรเมศวร์ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมากระบวนการสหกรณ์ประสบปัญหามากมาย ทำให้สหกรณ์ไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร ทีมเราจึงต้องการไปพัฒนา ชสอ. เพื่อไปสร้างสหกรณ์สมาชิกให้มีความเข้มแข็ง และพัฒนาสมาชิก เพราะสมาชิกของเราเป็นฐานรากของระบบเศรษฐกิจ วันนี้สหกรณ์ออมทรัพย์มีสมาชิกเป็นล้านล้าน จะต้องทำให้สมาชิกเข้มแข็ง 

ทีมทั้งหมดคิดว่าสหกรณ์ไม่ได้บริหารงานเงินเพียงอย่างเดียวแต่บริหารชีวิตของสมาชิกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถยืนบนขาตัวเองได้ รวมทั้งมีคนของเรารวมอยู่ในคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) มีแรงที่จะไปผลักดันสร้างเศรษฐกิจฐานรากทั้งภาคการเกษตร และนอกการเกษตรให้เดินต่อไปได้

 


นอกจากนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงแรงงานช่วยในการสร้างสหกรณ์ให้กับแรงงาน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ ชสอ. และสสท. ส่งเสริมให้สมาชิกที่อยู่ในโรงงานอุตสหกรรม สถานประกอบการได้มีสวัสดิการที่ดีขึ้น วันนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องนำกระบวนการสหกรณ์เดินหน้าไปให้ได้ คนที่อยู่ในทีมของเราได้มีการคัดสรรมาแล้ว

ดังเช่น ตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุข สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ เพราะมีการจัดสวัสดิการถือเป็นต้นแบบที่ดีที่จะเป็นแบบอย่างให้กับสหกรณ์ประเภทอื่นๆ รวมทั้งยังมีตัวแทนของครูที่จะมาร่วมแก้วิฤกตของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งเรามีครบทุกฝ่าย โดยกรรมการชุดนี้อาสาสมัครเพื่อพัฒนาชุมชนคนฐานรากของประเทศไทย จึงอยากฝากทีมพลังรักษ์สหกรณ์เพื่อให้สหกรณ์เดินได้ เศรษฐกิจสหกรณ์เดินได้

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรรมการ ชสอ. มา 2 ปี ผลงานที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันเรื่องกฎกระทรวง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อขบวนการสหกรณ์ รวมทั้งมีการต่อสู้ในเรื่องของเงินกู้การบินไทย ซึ่งมี 87 สหกรณ์ ถือหุ้นอยู่ประมาน 47,000 ล้านบาท ต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการตัดหนี้สหกรณ์ออก เงินทุกบาทต้องอยู่ครบ ในปีนี้มีการบริหารงานภายใต้วิฤกตโควิด-19 และเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็สามารถทำกำไรได้มากมาย 





โดยการบริหารงานของทีมพลังรักษ์สหกรณ์  ตนคนเดียวทำไม่ได้ แต่ที่ทำได้คือความร่วมมือจากทีมเดียวกันที่เป็นทีมสามารถบริหารงานโดยไม่มีอุปสรรคปัญหา ฉะนั้นทีมเราขอเสนอตัวเป็นผู้แทนโดยได้มีการคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นขอให้เชื่อใจทีมพลังรักษ์สหกรณ์เพื่อสานงานเก่า ก่องานใหม่ ตั้งใจพัฒนา สหกรณ์สมาชิกให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยื่น

ดร.มะณู บุญศรีมณีชัย ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขหนองคายจำกัด และผู้สมัครเลือกตั้งประธาน ชสอ. กล่าวว่า ทีมพลังรักษ์สหกรณ์มีนโยบายที่จะสานงานต่อ ก่องานใหม่ ตั้งใจพัฒนาภายใต้นโยบาย 8 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบการบริหารจัดการ ชสอ.ต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของกระบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อให้การแข่งขันกับสถาบันการเงินอื่นนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นคง และยั่งยืน

2.ระบบสวัสดิการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดสวัสดิการของสหกรณ์สมาชิก เพื่อสร้างความมั่นคงของสมาชิกสหกรณ์ 3.ระบบพัฒนาบุคลาการ โดยพัฒนาสถาบันและพัฒนาบุคลาการออมทรัพย์เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาคนเข้าสู่กระบวนการสหกรณ์



4.ระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม มีการจัดสรรและกระจายงบลงสู่พื้นที่อย่างเพียงพอและเป็นธรรม ส่งเสริมให้เขตพื้นที่มีส่งรร่วมในการพัฒนาตามบริบทของพื้นที่ พร้อมเปิดพื้นที่สะท้อนและรับฟังความคิดเห็นของสหกรณ์สมาชิกในรูปแบบสภาที่ปรึกษา 

5.ระบบการออม ส่งเสริมการออมแก่กระบวนสหกรณ์พร้อมผลักดันให้การออมเป็นวาระแห่งปี 6.ระบบสินเชื่อ ให้มีจัดระบบสินเชื่อให้มีความหลากหลาย และสามารถเข้าถึงได้อย่างครอบคุม 7.ระบบการลงทุน บริหารการลงทุนของ ชสอ.อย่างมืออาชีพเพื่อสร้างความมั่นคงและรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่สมดุล ในรูปแบบสมาคมนักลงทุนในกระบวนการสหกรณ์ 

8.ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ยกระดับ ชสอ.เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาระบบไอที และศูนย์ข้อมูลกลางในรูปแบบบิ๊กดาต้าเพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นสารสนเทศ MIS 3 

“เป้าหมายของทีมพลังรักษ์สหกรณ์ คือการพัฒนาให้สหกรณ์สมาชิกที่มีศักยภาพเป็นมืออาชีพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีประมาน 3.3 ล้านล้านคน ที่ดีขึ้น”ดร.มะณู  กล่าว






ความคิดเห็น