กรมประมงเตรียมกระจายผลผลิตกุ้งก้ามกรามเข้าเข้าโมเดิร์นเทรด- ปั๊มน้ำมัน ขยายตลาดให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ส่งออกได้น้อย-ราคาตก
นายถาวร จิระโสภณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ต่างๆ ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรเป็นผู้จำหน่ายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง การหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิต รวมถึงส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น จนทำให้ขณะนี้ราคากุ้งก้ามกรามซึ่งตกต่ำเนื่องจากส่งออกได้น้อยทำให้ผลผลิตล้นตลาดนั้น
สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เกษตรกรสามารถปรับตัวและกระจายผลผลิตได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น กุ้งก้ามกรามเป็นสินค้าสัตว์น้ำที่มีเกษตรกรเพาะเลี้ยงในหลายจังหวั ได้แก่ นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา กาฬสินธุ์ และเชียงราย ซึ่งในช่วงระยะแรกที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย การระบายผลผลิตเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีข้อจำกัดจากมาตรการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดโรค
ทั้งนี้กรมประมงคาดการณ์ว่า ตลอดปี 2563 กุ้งก้ามกรามจะยังคงมีผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 22,257 ตัน หรือเฉลี่ย 1,800 ตันต่อเดือน ดังนั้นจึงหาแนวทางงแก้ไขปัญหาในระยะกลางและระยะยาว ด้วยการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้ากุ้งก้ามกราม รวมถึงสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ไปยังตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ โมเดิร์นเทรด
ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) รวมถึงสถานีบริการน้ำมันได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยมีจุดจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดต่าง ที่ใกล้กับฟาร์มเพาะเลี้ยงของเกษตรกร เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมกับสภาพต้นทุน
อีกทั้งยังเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อได้ง่ายอีกด้วย ทั้งนี้ จากการหารือในเบื้องต้นภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยกรมประมงจะเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอแผนงานในการขอสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำในตลาดโมเดิร์นเทรด และปั๊มน้ำมันเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำร่องในสินค้ากุ้งก้ามกรามเป็นชนิดแรก
รองอธิบดีกรมประมงกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยและสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทยเพื่อลดราคาอาหารสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิตสำหรับช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วย โดยทั้ง 2 สมาคมให้อัตราส่วนลดดังนี้ อาหารกุ้งกุลาดำ - กุ้งขาวลดจากปกติ 25 บาท/ถุง อาหารกุ้งสมทบ กุ้งก้ามกราม และอื่นๆ ลดจากปกติ 20 บาท/ถุง อาหารปลากะพงลดจากปกติ 30 บาท/ถุง อาหารสัตว์น้ำจืดชนิดเม็ด ลอย-จม ชนิดโปรตีนสูงกว่า 29% ลดจากปกติ 15 บาท/ถุง และชนิดโปรตีน 21-29% ลดจากปกติ 10 บาท/ถุง ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวมีผลจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคมนี้
นายถาวร จิระโสภณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ต่างๆ ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรเป็นผู้จำหน่ายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง การหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิต รวมถึงส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น จนทำให้ขณะนี้ราคากุ้งก้ามกรามซึ่งตกต่ำเนื่องจากส่งออกได้น้อยทำให้ผลผลิตล้นตลาดนั้น
สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เกษตรกรสามารถปรับตัวและกระจายผลผลิตได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น กุ้งก้ามกรามเป็นสินค้าสัตว์น้ำที่มีเกษตรกรเพาะเลี้ยงในหลายจังหวั ได้แก่ นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา กาฬสินธุ์ และเชียงราย ซึ่งในช่วงระยะแรกที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย การระบายผลผลิตเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีข้อจำกัดจากมาตรการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดโรค
ทั้งนี้กรมประมงคาดการณ์ว่า ตลอดปี 2563 กุ้งก้ามกรามจะยังคงมีผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 22,257 ตัน หรือเฉลี่ย 1,800 ตันต่อเดือน ดังนั้นจึงหาแนวทางงแก้ไขปัญหาในระยะกลางและระยะยาว ด้วยการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้ากุ้งก้ามกราม รวมถึงสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ไปยังตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ โมเดิร์นเทรด
ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) รวมถึงสถานีบริการน้ำมันได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยมีจุดจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดต่าง ที่ใกล้กับฟาร์มเพาะเลี้ยงของเกษตรกร เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมกับสภาพต้นทุน
อีกทั้งยังเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อได้ง่ายอีกด้วย ทั้งนี้ จากการหารือในเบื้องต้นภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยกรมประมงจะเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอแผนงานในการขอสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำในตลาดโมเดิร์นเทรด และปั๊มน้ำมันเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำร่องในสินค้ากุ้งก้ามกรามเป็นชนิดแรก
รองอธิบดีกรมประมงกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยและสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทยเพื่อลดราคาอาหารสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิตสำหรับช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วย โดยทั้ง 2 สมาคมให้อัตราส่วนลดดังนี้ อาหารกุ้งกุลาดำ - กุ้งขาวลดจากปกติ 25 บาท/ถุง อาหารกุ้งสมทบ กุ้งก้ามกราม และอื่นๆ ลดจากปกติ 20 บาท/ถุง อาหารปลากะพงลดจากปกติ 30 บาท/ถุง อาหารสัตว์น้ำจืดชนิดเม็ด ลอย-จม ชนิดโปรตีนสูงกว่า 29% ลดจากปกติ 15 บาท/ถุง และชนิดโปรตีน 21-29% ลดจากปกติ 10 บาท/ถุง ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวมีผลจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคมนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น