ในปีนี้ ภาคการเกษตรไทยได้เผชิญกับ 2 ความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภัยแล้ง และจากสถานการณ์ต่างๆ นี้ ส่งผลให้ทั่วโลกล้วนตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตอาหารภาคการเกษตรเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้น การทำเกษตรสมัยใหม่และการทำเกษตรที่มีรูปแบบขนาดใหญ่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารได้
ดังนั้น "เกษตรกรรมที่ยั่งยืน" จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ทางยันม่าร์ยึดถือในการเพิ่มผลกำไรให้กับเกษตรกร ในขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วย ฉะนั้น การนำเทคโนโลยีมาคิดค้นร่วมกับนวัตกรรมจึงทำให้ยันม่าร์พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ชื่อว่า สมาร์ทแอสซิสท์ (SMARTASSIST หรือ SA-R) มาช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยก้าวสู่การเป็น เกษตรสมัยใหม่ (Modern Farm) เพื่อใช้ในการบริหารจัดการแปลงของตนเอง ซึ่งระบบนี้ของยันม่าร์จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยไม่เพียงแต่จะมาพัฒนาการบริหารจัดการฟาร์มของตนเองให้ดียิ่งขึ้น แต่ยังสามารถทำการเกษตรได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เพิ่มผลผลิตได้มีคุณภาพ ช่วยลดต้นทุน และทำให้เกษตรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมา บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี.จำกัด ได้เคยแนะนำเทคโนโลยีระบบ SA-R หรือระบบควบคุมทางไกลอัจฉริยะมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นการย่อฟังก์ชั่นการทำงานมาอยู่บนมือถือให้ผู้ใช้ได้ตรวจสอบสถานะการทำงานและรับการแจ้งเตือน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับเครื่องจักรอุปกรณ์ รวมทั้งสามารถตรวจเช็กและติดตามการทำงานของเครื่องจักรในแต่ละชั่วโมง ช่วยให้เกษตรกรวางแผนจัดการการทำงานได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ อีกทั้งหากมีการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรออกนอกพื้นที่ที่ตั้งไว้ ระบบจะส่งสัญญานแจ้งเตือนไปที่โทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้ทันทีช่วยให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งอย่างรวดเร็ว
จุดเด่นของระบบSA-R นี้ จะช่วยให้เกษตรกรรู้และติดตามตำแหน่งของเครื่องจักรว่าขณะนี้ทำงานอยู่ที่ไหน รวมทั้งการแจ้งเตือนความผิดปกติของอุปกรณ์ เช่นอุณหภูมิเครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินกำหนดหรือไม่ ระบบไฟฟ้าแบตเตอรี่พร้อมใช้งานหรือไม่ หากตรวจพบว่าไม่พร้อมใช้งานระบบจะทำการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะทำงาน นอกจากนี้ระบบยังแจ้งเตือนหากเครื่องจักรทำงานนอกเส้นทางหรือนอกช่วงเวลาที่กำหนดเป็นการป้องกันการโจรกรรมได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นระบบยังสามารถบริหารจัดการในแปลงนาแปลงไร่ขนาดใหญ่ได้ โดยช่วยให้เกษตรกรรู้สถานะการทำงานของเครื่องจักร รู้ถึงชั่วโมงการทำงานและปริมาณการใช้น้ำมัน โดยเก็บบันทึกเป็นข้อมูลการทำงานเพื่อนำไปวางแผนในการบริหารจัดการแปลงนาแปลงไร่ กำหนดพื้นที่ทำงานต่อไร่หรือใช้ในการวัดพื้นที่เพื่อประเมินคุณภาพของงาน
สำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรของยันม่าร์ที่ติดตั้งระบบ SA-R ได้แก่รถเกี่ยวนวดข้าว รถตัดอ้อย รถขุดยันม่าร์ รวมถึงแทรกเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด YM ซีรี่ย์ทั้งรุ่น 51 แรงม้า 57 แรงม้าและแทรกเตอร์รุ่น EF725T ขนาด 72 แรงม้า ที่จะช่วยให้เกษตรกรติดตามการทำงานได้ในระยะไกลอีกทั้งยังสามารถบันทึกข้อมูลประวัติการทำงานในแต่ละวันแล้วมาคำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อวางแผนการทำงานเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ทางยันม่าร์เอง ไม่ได้นำระบบ SA-R ไปใช้แค่ในวงการเกษตรเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเดินเรือ เรือสำราญและอุปกรณ์ร่วมอื่นเป็นต้น เกษตรกรท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายใกล้บ้าน หรือโทร. 1638
ดังนั้น "เกษตรกรรมที่ยั่งยืน" จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ทางยันม่าร์ยึดถือในการเพิ่มผลกำไรให้กับเกษตรกร ในขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วย ฉะนั้น การนำเทคโนโลยีมาคิดค้นร่วมกับนวัตกรรมจึงทำให้ยันม่าร์พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ชื่อว่า สมาร์ทแอสซิสท์ (SMARTASSIST หรือ SA-R) มาช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยก้าวสู่การเป็น เกษตรสมัยใหม่ (Modern Farm) เพื่อใช้ในการบริหารจัดการแปลงของตนเอง ซึ่งระบบนี้ของยันม่าร์จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยไม่เพียงแต่จะมาพัฒนาการบริหารจัดการฟาร์มของตนเองให้ดียิ่งขึ้น แต่ยังสามารถทำการเกษตรได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เพิ่มผลผลิตได้มีคุณภาพ ช่วยลดต้นทุน และทำให้เกษตรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมา บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี.จำกัด ได้เคยแนะนำเทคโนโลยีระบบ SA-R หรือระบบควบคุมทางไกลอัจฉริยะมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นการย่อฟังก์ชั่นการทำงานมาอยู่บนมือถือให้ผู้ใช้ได้ตรวจสอบสถานะการทำงานและรับการแจ้งเตือน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับเครื่องจักรอุปกรณ์ รวมทั้งสามารถตรวจเช็กและติดตามการทำงานของเครื่องจักรในแต่ละชั่วโมง ช่วยให้เกษตรกรวางแผนจัดการการทำงานได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ อีกทั้งหากมีการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรออกนอกพื้นที่ที่ตั้งไว้ ระบบจะส่งสัญญานแจ้งเตือนไปที่โทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้ทันทีช่วยให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งอย่างรวดเร็ว
จุดเด่นของระบบSA-R นี้ จะช่วยให้เกษตรกรรู้และติดตามตำแหน่งของเครื่องจักรว่าขณะนี้ทำงานอยู่ที่ไหน รวมทั้งการแจ้งเตือนความผิดปกติของอุปกรณ์ เช่นอุณหภูมิเครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินกำหนดหรือไม่ ระบบไฟฟ้าแบตเตอรี่พร้อมใช้งานหรือไม่ หากตรวจพบว่าไม่พร้อมใช้งานระบบจะทำการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะทำงาน นอกจากนี้ระบบยังแจ้งเตือนหากเครื่องจักรทำงานนอกเส้นทางหรือนอกช่วงเวลาที่กำหนดเป็นการป้องกันการโจรกรรมได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นระบบยังสามารถบริหารจัดการในแปลงนาแปลงไร่ขนาดใหญ่ได้ โดยช่วยให้เกษตรกรรู้สถานะการทำงานของเครื่องจักร รู้ถึงชั่วโมงการทำงานและปริมาณการใช้น้ำมัน โดยเก็บบันทึกเป็นข้อมูลการทำงานเพื่อนำไปวางแผนในการบริหารจัดการแปลงนาแปลงไร่ กำหนดพื้นที่ทำงานต่อไร่หรือใช้ในการวัดพื้นที่เพื่อประเมินคุณภาพของงาน
อย่างไรก็ตาม ทางยันม่าร์เอง ไม่ได้นำระบบ SA-R ไปใช้แค่ในวงการเกษตรเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเดินเรือ เรือสำราญและอุปกรณ์ร่วมอื่นเป็นต้น เกษตรกรท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายใกล้บ้าน หรือโทร. 1638
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น