น้ำไหลเข้าลดลงปรับลดระบายน้ำเขื่อนภูมิพล

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)เปิดเผยว่าปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล  เพียงวันละ5ล้านลบ.ม.โดยล่าสุดเขื่อนภูมิพล เหลือน้ำใช้การได้จริง2% หรือ222ล้านลบ.ม.แต่ยังมากว่าปี59 เป็นปีเกิดภัยแล้งรุนแรงที่สุด เขื่อนภูมิพลมีน้ำน้อยกว่านี้ ซึ่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคุมการใช้น้ำให้ถึงกลางเดือนก.ค.เนื่องจากระหว่างนี้เข้าสู่ฝนทิ้งช่วง ระหว่างกลางเดือนมิ.ย.-กลางเดือนก.ค.น้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง



ปริมาณน้ำใช้การได้ 4เขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสัก มีน้ำใช้การรวมกัน975ล้านลบ.ม.ยังมีพอใช้ และปรับลดการระบายเพื่อคุมน้ำไว้ใช้ให้ถึงกลางเดือนก.ค.จะมีฝนมามากขึ้น หลายฝ่ายห่วงใยจะเกิดน้ำท่วมในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.เพราะมีพายุ เข้าด้วยปริมาณฝนตกมากขึ้น มากกว่าค่าเฉลี่ย 4-5%

โดยเฉพาะ ภาคกลาง ตั้งแต่จ.นครสวรรค์ ลงมาหากตกแช่ ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งภาพรวมฝนอั้นมาตกช่วงเดือนก.ย. จะไม่ได้น้ำเข้าเขื่อน ส่งผลกระทบฤดูแล้งหน้า เดือน พ.ย.63-พ.ค.64น้ำอาจไม่พอ ต้องมีมาตรการรัดกุมเข้มข้นมากขึ้นในการใช้น้ำมากว่าปีนี้”นายสมเกียรติ กล่าว

เลขาธิการสทนช.กล่าวว่าคาดการณ์เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ มีปริมาณน้ำ55%  ภาคอีสาน77 % ภาคตะวันออก83 %ภาคใต้และภาคตะวันตก มีน้ำเยอะ ไม่มีปัญหา แต่น่าเป็นห่วงภาคกลาง  เพราะได้ฝนช่วงเดือนก.ย.มาตกท้ายเขื่อน


ส่วนคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนภาคเหนือ กว่า 9พันล้านลบ.ม. ภาคอีสาน 6,190ล้านลบ.ม.ภาคตะวันออก 1,460ล้านลบ.ม ภาคกลาง 1,130 ล้านลบ.ม. ภาคตะวันตกและภาคใต้ โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนทั่วประเทศ 28,300ล้านลบ.ม. ทั้งนี้ฤดูแล้งหน้าจะมาตรการคุมการใช้น้ำมากกว่าปีนี้ เพราะได้น้ำเข้าเขื่อนไม่มาก จากฝนตกไม่กระจายและมาตกกระจุกตัวท้ายเขื่อน 2-3เดือนช่วงปลายปี ซึ่งช่วง3เดือนแรกเมื่อเข้าฤดูฝนตกภาคเหนือ เพียง70-80มม.เท่านั้น








ความคิดเห็น