"กรมปศุสัตว์"ตามรอยพระราชดำริหนุนคนว่างงาน“เลี้ยงหมูหลุม”-“ไก่ไข่อารมณ์ดี”กู้วิกฤติโควิด

กรมปศุสัตว์เกาะติดก้าวหน้าโครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด-19 ณ  โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ (บ้านบ่อหวี) จ.ราชบุรี  ที่หนุนคนว่างงาน “เลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี” และ “เลี้ยงหมูหลุม” เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ให้อาชีพและรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน
ณ โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง (บ้านบ่อหวี) จังหวัดราชบุรี หมู่ที่ 2 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง  จังหวัดราชบุรี    สัตวแพทย์หญิงธนิดา  หรินทรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานการปศุสัตว์ระหว่างประเทศ  พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์วรวิชญ์ วราอัศวปติ เลขานุการกรม  นายสัตวแพทย์บุรินทร์ สรสิทธิ์สุขสกุล ปศุสัตว์จังหวัดราชบุรีและสัตวแพทย์หญิงสุทธิวรรณ  สังข์วิลัย  ปศุสัตว์อำเภอสวนผึ้ง ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนิน“โครงการฟาร์มตัวอย่าง ต้านภัยโควิด -19 ซึ่งกรมปศุสัตว์จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ให้อาชีพและรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว
สัตวแพทย์หญิงธนิดา   หรินทรานนท์   ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานการปศุสัตว์ระหว่างประเทศ  กล่าวว่า  ปัจจุบันฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หมู่ที่ 4 บ้านบ่อหวี ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี   นับเป็นหนึ่งภายใต้โครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด -19 ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 50 คนโดยในส่วนของกรมปศุสัตว์ได้รับการดำเนินการใน  2  กิจกรรม   คือ การเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี และการเลี้ยงหมูหลุม 
โดยกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษได้โอนเงินงบประมาณการสร้างโรงเรือนทั้ง 2 กิจกรรมให้ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์หนองกวาง อำเภอโพธาราม  จังหวัดราชบุรี  เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันในส่วนของโรงเรือนไก่ไข่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนโรงเรือนหมูหลุมยังไม่แล้วเสร็จเหลือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์  โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรีสนับสนุนไก่ไข่จำนวน 50 ตัว ดำเนินการส่งมอบให้ฟาร์มตัวอย่างฯแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ส่วนหมูสามสายขอสนับสนุนจากศูนย์ฯ หนองกวาง จำนวน 8 ตัว ทั้งนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี ได้สนับสนุนอาหารสัตว์ทั้ง 2 กิจกรรม เป็นเวลา 2 เดือน
สัตวแพทย์หญิง ธนิดา กล่าวถึงความเป็นมาในการจัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด -19 ด้วยว่า  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่เกิดในประเทศไทยและทั่วโลก รวมถึงสถานการณ์วิกฤตการณ์ภัยแล้ง ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจถดถอย  ประชาชนเกิดความยากลำบากในการประกอบอาชีพ สถานประกอบกิจการมีการปิดกิจการ  เลิกจ้าง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงาน ทำให้ประชาชน วัยแรงงาน พนักงาน และลูกจ้าง  ต้องเผชิญกับปัญหาการว่างงาน ขาดรายได้และเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก  ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) 
จึงได้จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ปี 2563  ภายใต้กิจกรรมจ้างงานเร่งด่วนขึ้นภายใต้ชื่อ “โครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด -19”    เพื่อให้ประชาชนวัยแรงงาน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และสถานการณ์ภัยแล้ง ที่ว่างงาน ขาดรายได้ ได้รับความเดือดร้อนด้านอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ จากการจ้างงานในพื้นที่ระหว่างหยุดงาน เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ สามารถประกอบอาชีพได้จากประสบการณ์ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบ้าน
สำหรับโครงการจ้างงานเร่งด่วน เป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะฝึกการเรียนรู้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จากการว่างงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 กิจกรรมที่ทำ   อาทิ   การเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี   การเลี้ยงหมูหลุม   การทำปุ๋ย   การผสมดิน    การถากหญ้าในแปลงผัก ขุดลอกคูคลอง   การปลูกพืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพร  เป็นต้น    ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 300 บาทต่อวัน 
เมื่อทำครบแล้วหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จะสำรวจความต้องการเพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพตามความต้องการเพื่อให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้อย่างมั่นคง โดยกระทรวงแรงงานได้รับการจัดสรรงบจ้างงานจำนวน 19.8 ล้านบาท  ซึ่งมีแผนดำเนินการในพื้นที่ 17 จังหวัด 30 ฟาร์มตัวอย่าง  ภายในระยะเวลา 60 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. – 28 ก.ค.2563  ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องปฏิบัติงานวันละ 8 ชั่วโมง และจะได้รับค่าตอบแทนวันละ 300 บาทต่อคน  ทั้งนี้จะมีน้องเกษตรกรได้รับผลประโยชน์รวมจำนวน  1,101  คน 




ความคิดเห็น