นายศุภฤกษ์ เอี่ยมละออ รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า อ.ต.ก. เป็นครัวของคน กทม. และธนาคารอาหาร ที่สำคัญคือติดอันดับ 1 ใน10 ตลาดคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนวิถีการดำรงชีวิตของผู้คน
สิ่งที่ อ.ต.ก.ทำ คือการเข้มงวดในการกำหนดมาตรการตรวจคัดกรอง ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อให้มีความปลอดภัยอย่างจริงจัง ในสภาวะที่ทุกคนมีการปรับตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 จึงเหมือนการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสเพราะยอดจำหน่ายสินค้าของ อ.ต.ก.เพิ่มขึ้นเท่าตัว จนได้รับคำชื่นชมจากเกษตรกรว่า ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเป็นที่รองรับการจำหน่ายผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม
ทั้งนี้ อ.ต.ก. ยังได้ปรับพันธกิจและรูปแบบการส่งเสริมเกษตรกร ให้เข้ากับสภาวการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาดให้สินค้าเกษตรควบคู่กับเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้หลากหลาย รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การค้าขายแบบออนไลน์ อ.ต.ก.เดลิเวอรี่ อ.ต.ก.สมาร์ทมาร์ท เป็นต้น
รวมทั้งส่งเสริมเกษตรกรให้พัฒนาตนเองจากที่เป็นผู้ผลิตมาเป็นผู้ค้าไปในตัวเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนในอาชีพ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าจากเดิมที่สินค้าเกษตรจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจะส่งมายัง อ.ต.ก.ส่วนกลางในกทม.เพียงแห่งเดียว ก็จะมีการตั้งสำนักงานตลาด อ.ต.ก.ทั้ง 76 จังหวัด มีการบริหารจัดการแบบเดียวกับ อ.ต.ก. ในกทม. ด้วยการควบคุมคุณภาพ เน้นความน่าเชื่อถือ สร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ จำหน่ายสินค้าในราคาเป็นธรรมกับผู้บริโภค เพื่อยกระดับตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
ที่ผ่านมา อ.ต.ก. ได้ร่วมบริหารกับเอกชนในการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่การดำเนินการเช่นนี้ในระยะยาวอาจไม่มีความยั่งยืน ดังนั้น การมีสำนักงาน อ.ต.ก.ทั่วประเทศ จะช่วยให้มีจุดกระจาย ดูแล ควบคุณภาพสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคง และน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่สามารถซื้อสินค้าได้ตรงตามความต้องการ
โดยการนำสินค้าไปจำหน่ายระหว่าง อ.ต.ก. แต่ละจังหวัดเพื่อเพิ่มความหลากหลาย ซึ่งผมยังเชื่อมั่นว่า อ.ต.ก. จะยังคงเป็นองค์กรในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงในการกระจายสินค้าส่งตรงถึงผู้บริโภค และจะยังคงพัฒนาต่อยอดในการหาช่องทางรองรับผลผลิตทางการเกษตรกรให้ได้มากที่สุด อ.ต.ก. พร้อมเป็นตลาดอันดับต้นๆ และเป็นตลาดคุณภาพระดับพรีเมียม ตลอดไป
สิ่งที่ อ.ต.ก.ทำ คือการเข้มงวดในการกำหนดมาตรการตรวจคัดกรอง ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อให้มีความปลอดภัยอย่างจริงจัง ในสภาวะที่ทุกคนมีการปรับตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 จึงเหมือนการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสเพราะยอดจำหน่ายสินค้าของ อ.ต.ก.เพิ่มขึ้นเท่าตัว จนได้รับคำชื่นชมจากเกษตรกรว่า ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเป็นที่รองรับการจำหน่ายผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม
ทั้งนี้ อ.ต.ก. ยังได้ปรับพันธกิจและรูปแบบการส่งเสริมเกษตรกร ให้เข้ากับสภาวการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาดให้สินค้าเกษตรควบคู่กับเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้หลากหลาย รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การค้าขายแบบออนไลน์ อ.ต.ก.เดลิเวอรี่ อ.ต.ก.สมาร์ทมาร์ท เป็นต้น
รวมทั้งส่งเสริมเกษตรกรให้พัฒนาตนเองจากที่เป็นผู้ผลิตมาเป็นผู้ค้าไปในตัวเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนในอาชีพ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าจากเดิมที่สินค้าเกษตรจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจะส่งมายัง อ.ต.ก.ส่วนกลางในกทม.เพียงแห่งเดียว ก็จะมีการตั้งสำนักงานตลาด อ.ต.ก.ทั้ง 76 จังหวัด มีการบริหารจัดการแบบเดียวกับ อ.ต.ก. ในกทม. ด้วยการควบคุมคุณภาพ เน้นความน่าเชื่อถือ สร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ จำหน่ายสินค้าในราคาเป็นธรรมกับผู้บริโภค เพื่อยกระดับตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
ที่ผ่านมา อ.ต.ก. ได้ร่วมบริหารกับเอกชนในการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่การดำเนินการเช่นนี้ในระยะยาวอาจไม่มีความยั่งยืน ดังนั้น การมีสำนักงาน อ.ต.ก.ทั่วประเทศ จะช่วยให้มีจุดกระจาย ดูแล ควบคุณภาพสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคง และน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่สามารถซื้อสินค้าได้ตรงตามความต้องการ
โดยการนำสินค้าไปจำหน่ายระหว่าง อ.ต.ก. แต่ละจังหวัดเพื่อเพิ่มความหลากหลาย ซึ่งผมยังเชื่อมั่นว่า อ.ต.ก. จะยังคงเป็นองค์กรในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงในการกระจายสินค้าส่งตรงถึงผู้บริโภค และจะยังคงพัฒนาต่อยอดในการหาช่องทางรองรับผลผลิตทางการเกษตรกรให้ได้มากที่สุด อ.ต.ก. พร้อมเป็นตลาดอันดับต้นๆ และเป็นตลาดคุณภาพระดับพรีเมียม ตลอดไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น