"ศปอส.ตร."โชว์ผลงานจับเว็ปพนันออนไลน์หลายร้อยล้านบาท

 เนื่องด้วยสภาวะสังคมปัจจุบันภัยอันตรายจากสื่ออินเตอร์เน็ต ได้เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดเวลา มีหลายรูปแบบที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ในการกระทำผิด การพนันออนไลน์ สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีการชักชวนไม่จำกัดอายุ เข้าเล่น สร้างความเสียหายต่อความมั่นคง-เศรษฐกิจของประเทศ  สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน  หรือหลอกลวงประชาชนโดยผ่านทางช่องทางสื่อ Online  ต่าง ๆ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เปิดตัว “เพจ อาสาจับตาออนไลน์” เป็นช่องทางสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสสื่อสังคมออนไลน์-เว็บผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหา การปราบปรามกการกรทะผิดกฎหมายโดยใช้วิธีออนไลน์ มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนโดยตรง

พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มีความห่วงใยประชาชนผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเหล่านี้  จึงมีนโยบายกำชับทุกหน่วย ทำการสืบสวน จับกุม ปราบปรามการกระทำผิดในลักษณะนี้มาโดยตลอด เพราะถือได้ว่าการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวได้สร้างความเสียหาย ทั้งด้านความมั่นคง สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ

ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง เกิดความตื่นตระหนก ตามคำสั่ง ตร.ที่ ๕๗๔/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ จัดตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)  โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุมผู้ที่กระทำผิดให้มารับโทษตามกฎหมาย 

พร้อมดำเนินการบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น การเยียวยาให้ผู้เสียหายตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  ให้กับประชาชน โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ   นุชนารถ  ผบก.สส.สตม. เป็นหัวหน้า ปฏิบัติการ ร่วมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 /หน.ชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ชุด 3
เพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center)  กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ผลการดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดฯ และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548  ในห้วงวันที่ 21 ตุลาคม  พ.ศ. 2563  พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม หัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับ“เพจ อาสาจับตาออนไลน์” 

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ควบคุมการปฏิบัติของชุดปฏิบัติ ได้สั่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการตามแนวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ,  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ทำการสืบสวน ตรวจค้น 2 จุด

จุด 1 กำลังเข้าค้นตามหมายศาลจังหวัดสงขลาที่ 100/2563 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2563 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 386/91 ม.6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  ซึ่งเป็นเครือข่ายเว็ปไซต์พนันออนไลน์ www.urobet99.net  เปิดทำการนับแต่ พ.ค.63 มีเงินทุนหมุนเวียน 50 ล้าน ผลการตรวจค้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พร้อมด้วยของกลางดังต่อไปนี้

1.ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง
2.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่อง
3. โทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง
4.สมุดบัญชีจำนวน 8 เล่ม
5.เงินสด จำนวน 514,600 บาท

จากนั้นได้ทำการประสานยื่นขอปิดกั้น เว็บไซต์เครือข่ายwww.urobet99.net จุด 2 นำกำลังเข้าค้นตามหมายศาลจังหวัดสงขลา ที่ 98/2563 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2563 เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 297 ถ.นิพันธ์สงเคราะห์ 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเครือข่ายเว็ปไซต์พนันออนไลน์ www.imi6g.com เปิดทำการนับแต่ มิ.ย.63   มีเงินทุนหมุนเวียน 200 ล้าน ผลการตรวจค้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พร้อมด้วยของกลางดังต่อไปนี้

1.ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 7 เครื่อง
2.หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 40 เครื่อง
3. ซิมการ์ด โทรศัพท์ ประมาณ 200 ชิ้น  
4.อุปกรณ์เร้าเตอร์ 7 เครื่อง
5.กระดานไวท์บอร์ดจดชื่อพนักงาน 1 แผ่น ระบุพนักงาน 22 คน
6.สมุดจดตารางเวรพนักงาน 1 เล่ม

จากนั้นได้ทำการประสานยื่นขอปิดกั้น เว็บไซต์เครือข่ายwww.imi6g.com ปัจจุบันพบประชาชนและเยาวชนตกเป็นผู้เสียหายจากการเล่นพนันออนไลน์จำนวนมาก จึงขอเตือนประชาชน หรือผู้โพสต์สนับสนุนเชิญชวนเล่นพันนออนไลน์ อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.การพนัน มาตรา 12 ชักชวน หรือโฆษณาให้มีการเล่นการพนัน โดยผิดกฎหมาย - จำคุก 3 เดือน ถึง 3 ปี ปรับ 500- 5,000 บาท