เพื่อเร่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ หน่วยธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้บริโภคของเฮงเค็ล ได้แก่ บิวตี้แคร์และ ผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ได้จัดตั้งทีมบ่มเพาะและโรงงานไอเดียภายในองค์กรขึ้น เพื่อรวมรวบความคิดที่ผสมผสานแนวทางการทำงานที่คล่องตัวเข้ากับขนาดและความเชี่ยวชาญของบริษัทระดับโลก
โดยทีมจะคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ระบุรูปแบบธุรกิจและบริการใหม่ๆ และพัฒนาแนวคิดผลิตภัณฑ์เพื่อจับโอกาสการเติบโตเพิ่มเติม เพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ลำดับความสำคัญหลักคือความรวดเร็วและความคล่องตัว นั่นคือเหตุผลที่ทีมทำงานในฐานะ “ผู้ประกอบการภายในบริษัท” โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั้งภายในและภายนอก ในทางกลับกันกระบวนการที่เป็นอิสระ รวดเร็ว และการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทั่วโลกของเฮงเค็ลจะช่วยให้ทีมพัฒนาแบรนด์และกลยุทธ์การขายที่ประสบความสำเร็จ
The “Fritz Beauty Lab”
“สภาพแวดล้อมทางการตลาดของเรามีการแข่งขันกันกันมากขึ้นและมีการหยุดชะงัก และความรวดเร็วของนวัตกรรมได้ถูกเร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ในการก้าวไปสู่ความเป็นจริงใหม่นี้เราต้องคาดการณ์แนวโน้มก่อนที่จะเริ่มมาแรง ระบุรูปแบบธุรกิจใหม่ก่อนที่จะใหญ่ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยความเร็วสูง นั่นคือเหตุผลที่เราสร้าง ‘Fritz Beauty Lab’ ศูนย์บ่มเพาะของเราเอง” นายเจนส์-มาร์ติน ชวาร์สเลอร์ รองประธานบริหารธุรกิจเฮงเค็ลบิวตี้แคร์กล่าว
‘Fritz Beauty Lab’ (ฟริทซ์ บิวตี้ แล็บ) ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ฟริทซ์ เฮงเค็ล ผู้ก่อตั้งเฮงเค็ล มีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุสิ่งที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตสำหรับแบรนด์ที่มีอยู่หรือไวท์สปอตเพื่อสร้างแบรนด์ใหม่อย่างสมบูรณ์ ทีมทำงานในช่องทางนวัตกรรมที่กำหนด ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคและข้อมูลเชิงลึกของตลาด
ได้สร้างแนวคิดทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้สร้างต้นแบบอย่างรวดเร็วและทดสอบโดยตรงในตลาด ด้วยการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของอีคอมเมิร์ซและแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยขั้นต่ำผลิตภัณฑ์ที่ทำงานได้จะถูกเสนอให้กับผู้บริโภคโดยตรง แนวทางนี้จะเร่งกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด และเมื่อพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวในวงกว้างมากขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขตของความสามารถในการปรับขนาดในอนาคต
Love Nature – นวัตกรรมด้วยแนวทางความยั่งยืนแบบองค์รวม
Love Nature GmbH เป็นโรงงานแนวคิดด้านความยั่งยืนแห่งใหม่ของธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและ ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของเฮงเค็ลที่พัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนโดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ และรูปแบบธุรกิจที่ก้าวไปไกลกว่านั้น “ความยั่งยืนเป็นเสาหลักในกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมของเรา ด้วยแบรนด์ Love Nature เรากำลังก้าวไปอีกขั้นเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้วยแนวทางความยั่งยืนแบบองค์รวมที่ทำให้ตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมง่ายขึ้นและมีความสุขมากขึ้นสำหรับทุกคน” บรูโน่ ปิอาเซ็นซ่า รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน กล่าว
“เทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่kงไม่เคยปรากฎมาก่อน ด้วยโรงงานไอเดียใหม่นี้เราจะนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและบางครั้งก็กล้าหาญ ในขณะที่เร่งโมเดลธุรกิจใหม่ที่ปรับขนาดได้และแนวคิดด้านความยั่งยืนแบบองค์รวม”
ตามแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมต้นแบบที่ยั่งยืนเพื่อให้ตลาดเติบโตเต็มที่ในระยะเวลาสั้นๆ ทีม Love Nature อาศัยความร่วมมือกันอย่างเข้มข้นกับผู้บริโภค ผู้มีอิทธิพลที่คำนึงถึงความยั่งยืน และผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเปิดตัวแบรนด์สินค้าแรก The Love Nature ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ซักผ้า ล้านจาน และทำความสะอาดมากมาย ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นฐานจากพืชและได้รับการรับรองโดยสถาบันที่มีชื่อเสียง อาทิ EU Ecolabel หรือ ECARF สูตรที่ใช้มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติในระดับสูงและผลิตภัณฑ์เหล่านี้บรรจุในขวดที่ประหยัดทรัพยากรและยั่งยืนซึ่งทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล นอกจากนี้ Love Nature ยังมีจำหน่ายในร้านค้ารูปแบบรีฟีลสเตชั่นในประเทศเยอรมนี
นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน
การจัดตั้งโรงงานไอเดียของธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และทีมศูนย์บ่มเพาะของธุรกิจบิวตี้แคร์ สอดคล้องกับกรอบกลยุทธ์ของเฮงเค็ลในการมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันหลัก ทั้งนี้ได้รวมแนวคิดด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมขั้นสูง
อาทิ การขยายการใช้เครื่องมือและข้อมูลดิจิทัลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่รวดเร็วและดียิ่งขึ้นและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของนวัตกรรมแบบเปิดและการระดมความคิด นวัตกรรมและแบรนด์จะได้รับการสนับสนุนด้วยการลงทุนที่สอดคล้องกันในหมวดหมู่หลักและภูมิภาค ดังนั้นเฮงเค็ลจะเพิ่มการลงทุนด้านการโฆษณา ดิจิทัล และไอทีเพิ่มขึ้นอีก 350 ล้านยูโรเมื่อเทียบปี 2561
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น