มั่งคั่ง ! 160 สหกรณ์สินทรัพย์เกิน 5 พันล้านบาท

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศนายทะเบียนสหกรณ์   เรื่องรายชื่อสหกรณ์ขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2564 ทั้งนี้ เป็นการประกาศตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2562 มาตรา 89/2(1) และมาตรา 105 วรรค 3 ที่กำหนดให้มีการออกกฎกระทรวงการดำเนินงานและกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 

กำหนดให้สหกรณ์แบ่งเป็นสองขนาด คือ สหกรณ์ขนาดใหญ่และสหกรณ์ขนาดเล็ก อาศัยอำนาจตามความในกฎกระทรวงการดำเนินงานและกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2564 ข้อ2 ข้อ 26 กำหนดให้สหกรณ์ซึ่งมีขนาดสินทรัพย์ตั้งแต่ 5 พันล้านบาทขึ้นไป และชุมนุมสหกรณ์ เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่

ข้อมูล ณ วันที่ 15 มี.ค.2564 มีชุมนุมสหกรณ์ขนาดใหญ่ 13 แห่ง สหกรณ์ขนาดใหญ่ 147 แห่ง ซึ่งในอนาคตอาจมีเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามขนาดของสินทรัพย์ ทั้งนี้ สหกรณ์ขนาดใหญ่จะต้องเริ่มปฏิบัติตามกฎกระทรวงการดำเนินการและการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2564 ซึ่งกรมจะจัดให้มีการจัดเวทีเสวนาแนวทางปฏิบัติให้กับสหกรณ์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ



เบื้องต้นเริ่มที่สหกรณ์ในเขตกรุงเทพ ทั้งที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 และพื้นที่ 2 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อกำหนดเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่ที่สหกรณ์เหล่านี้ต้องปฏิบัติดังนั้นในช่วง 1-2 ปีนี้ กรมจึงมีนโยบายว่าจะใช้แนว การทำงานส่งเสริมเป็นหลัก เพื่อให้มีการปฏิบัติให้ได้ก่อน นอกจากนี้กรมจะออกคู่มือให้เป็นแนวปฏิบัติออกมาอีกด้วย กรมฯจะไม่เร่งรัด แต่จะใช้หลักเดินไปด้วยกันกับพี่น้องชาวสหกรณ์  ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับระบบสหกรณ์ทั่วประเทศ

นายสุรพล พงษ์เมธีอภิชัย ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า กล่าวในการชี้แจงต่อผู้ร่วมประชุมในเวทีเสวนาฯ ว่ากฎกระทรวงฉบับนี้มีด้วยกัน 5 หมวด ประกอบด้วยการกำหนดขนาดของสหกรณ์   หมวด 2 ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการและคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมและผู้จัดการ หมวด 3    การดำรงเงินกองทุนของชุมนุมสหกรณ์ หมวด 4 การกำกับดูแลด้านธรรมาภิบาลของสหกรณ์ หมวดที่ 5 การบัญชีและการรายงานข้อมูล และบทเฉพาะกาล

ได้กำหนดนิยามของสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ คณะกรรมการและกรรมการ และขนาดของสหกรณ์ แยกเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ คือ สหกรณ์ที่มีขนาดสินทรัพย์ 5 พันล้านบาทขึ้นไป ส่วนขนาดเล็ก คือ สินทรัพย์    น้อยกว่า 5 พันล้านบาท โดยขนาดของสินทรัพย์ให้พิจารณาจากงบการเงินของสหกรณ์ในปีบัญชีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว และการจะออกจากการเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ เมื่อยื่นคำร้องแล้ว นายทะเบียนสหกรณ์จะเป็นผู้พิจารณา ภายใน 30 วัน     

สำหรับอำนาจหน้าที่ของกรรมการนั้นกำหนดให้ สหกรณ์ต้องมีการกำหนดนโยบาย ทิศทางเป้าหมายกลยุทธ์ในการทำงาน  ต้องมีข้อกำหนดจริยธรรม และจัดให้มีการกระบวนการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ของสหกรณ์ โดยอย่างน้อยต้องครอบคลุมความเสี่ยงด้านสินเชื่อการลงทุน   

กฎกระทรวงยังกำหนดให้บุคคลเป็นกรรมการสหกรณ์ได้เพียง 1 แห่ง และสหกรณ์ต้องมีกรรมการ  ที่มีคุณวุฒิด้านการเงิน การบัญชี การบริหารจัดการด้านเศรษฐศาสตร์ หรือผ่านการอบรมตามหลักสูตรในด้านดังกล่าวหรือด้านอื่นตามที่คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติกำหนด 

ในบทเฉพาะกาลได้กำหนดว่ากรณีที่กรรมการหรือผู้จัดการของสหกรณ์ขนาดใหญ่ซึ่งดำรงตำแหน่งก่อนที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระหรือกำหนดสัญญาจ้าง และให้สหกรณ์ดำเนินการให้มีกรรมการสหกรณ์ ที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดภายใน 6เดือนนับแต่สหกรณ์มีกรรมการชุดใหม่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 2 ปีนับแต่กฎกระทรวง ใช้บังคับ






ความคิดเห็น