นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย เปิดเผยว่าตามที่สภากาชาดไทยได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดสภากาชาดไทยรวมทั้งเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆให้จัดทำโครงการและกิจกรรมที่มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิดเพื่อเป็นเสริมสนับสนุนภารรัฐและเอกชนที่กำลังร่วมกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดซึ่งถือว่าเป็นภาวะวิกฤตของประเทศที่เกิดจากสาธารณภัยเป็นประเภทหนึ่ง
ล่าสุดได้รับรายงานจากนายกเหล่ากาชาดหลายจังหวัดได้เข้าไปร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้ป่วยโควิดและกลุ่มบุคลากรทางการแพทยและพยาบาลที่กำลังปฎิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับกระทบจากโรคโควิด เริ่มจากจังหวัดนครราชสีมา วันนี้
นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดนครราชสีมา ร่วมประกอบอาหารสนับสนุนให้แก่เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลบาลสนาม ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาในอาคารชาติชายฮอลล์ ด้วยการรับผิดชอบในการจัดหา/จัดทำอาหาร ส่งให้บุคคลากรทุกฝ่ายที่ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม
แพทย์ พยาบาล จนท.สาธารณสุข ทหาร ตำรวจ ปกครอง วันละ 2 มื้อ(เที่ยง/เย็น) มื้อละ 80 ชุด ทุกวันด้วย งบประมาณ ใช้งบตามพันธกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดโดย มีบริษัทเอกชนช่วยบริจาคของสดบางอย่าง และภาคเอกชนที่ทราบมาช่วยเหลือซึ่งไม่มีการเปิดขอรับบริจาคแต่อย่างใด เริ่มดำเนินการซึ่งจำดำเนินการต่อเนื่อง จนกว่าจะปิดทำการโรงพยาบาลสนามเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
ในขณะเดียวกันเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้นางวริฐา จันทรา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) รับมอบการสนับสนุนชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤต COVID-19 จากสภากาชาดไทยให้แก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด - 19 โดยการรับแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น “พ้นภัย” โดยเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้วจะดำเนินการมอบให้แก่โรงพยาบาลสนามต่อไป
ด้านกลุ่มภาคเหนือนางปนัดดา เนาวรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน รับมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ชุดธารน้ำใจ สู้ภัยโควิด 19 สภากาชาดไทย และน้ำดื่มน้ำทิพย์ ขนาด 600 มล.จำนวน 329 ชุด ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทย เพื่อนำไปมอบให้ผู้เฝ้าระวัง กักตัว 14 วัน ที่กักตนเองอยู่ที่บ้าน ซึ่ง อสม. ในพื้นที่ 6 อำเภอในจังหวัดลำพูน
ประกอบด้วย อำเภอเมืองลำพูน อำเภอป่าซาง อำเภอแม่ทา อำเภอบ้านธิ อำเภอเวียงหนองล่อง และอำเภอทุ่งหัวช้าง ได้ทำสำรวจและคัดกรองแล้วระหว่าง วันที่ 9-15 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยได้มอบหมายให้ อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต. และอสม. นำชุดสิ่งของดังกล่าวไปมอบให้ผู้ที่กักตัว 14 วัน ในพื้นที่ต่อไป ณ อาคารพัสดุ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน
นายกฤษฎา บอกด้วยว่าสำหรับโครงการและกิจกรรมการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิดทั้งหมดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ขณะนี้กำลังประสานงานหน่วยงานในสังกัดสภากาชาดไทยในส่วนกลาง เช่นสำนังงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมกันพิจารณาจัดโรงครัวเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยเพื่อผลิตอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยจำนวนมากที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามพื้นที่ระบาดสีแดง เช่นจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดสงขลา เป็นต้นโดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการโครงการครัวเคลื่อนที่ สภากาชาดไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น