นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมชลประทาน ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพื้นที่ชุ่มน้ำไทย กองทัพบก และกองบัญชาการกองทัพไทย เร่งดำเนินการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ ซึ่งมีโครงการสำคัญ 11 โครงการ
ประกอบด้วย โครงการขุดลอกตะกอนดินกว๊านพะเยา และโครงการพัฒนาหนองเล็งทราย จ.พะเยา โครงการขุดลอกตะกอนดินเวียงหนองหล่ม จ.เชียงราย โครงการพัฒนาบึงราชนก จ.พิษณุโลก โครงการพัฒนาบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ โครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร จ.พิจิตร โครงการพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร โครงการพัฒนาแก่งน้ำต้อนโครงการพัฒนาแก่งละว้า จ.ขอนแก่น โครงการพัฒนาบึงละหาน จ.ชัยภูมิ และโครงการพัฒนาหนองช้างใหญ่ จ.อุบลราชธานี
กรมชลประทานยังเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติอื่นๆ ในพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำเหล่านั้นให้มากที่สุด ทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับการใช้น้ำในอนาคตที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น
นายประพิศ ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดทำแผนแม่บท (Master Plan) ให้มีความสอดคล้องกันระหว่าง ปริมาณงาน ระยะเวลาก่อสร้าง และงบประมาณอีกทั้งให้จัดเตรียมแผนกิจกรรมหรือโครงการมีความต่อเนื่องกัน ด้วยการวางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลอย่างเต็มที่ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
พร้อมทั้งกำชับให้ทุกโครงการดำเนินงานโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น