ฝนหลวง"ติดตามช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ
นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนจนถึงร้อนมากและในบางพื้นที่ มีปริมาณและการกระจายตัวของฝนค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ยังคงมีเกษตรกรต้องการฝนทั่วภูมิภาคของประเทศอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากตัวแปรทางธรรมชาติของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ความชื้นจากอันดามันและอ่าวไทยเข้าไปหล่อเลี้ยงบริเวณตอนกลางของประเทศไทยค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ปริมาณความชื้นในอากาศมีน้อย และมีฝนน้อยลง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค รวมถึงเตรียมความพร้อมในการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน และพร้อมที่จะขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงทันที หากสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการ
การปฏิบัติการฝนหลวง กรมฝนหลวงฯ ได้รับการสนับสนุนอากาศยานและกำลังพลจากกองทัพอากาศและกองทัพบก ในการร่วมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
โดยผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำปาง เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 6 แห่ง และอ่างเก็บน้ำจำนวน 7 แห่ง สำหรับการติดตามสภาพอากาศในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 3 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.กาญจนบุรี และ สุพรรณบุรี
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.หัวหิน มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ราชบุรี และ เพชรบุรี
ทั้งนี้ อีก 10 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน โดยหากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป
พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
เนื่องจากตัวแปรทางธรรมชาติของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ความชื้นจากอันดามันและอ่าวไทยเข้าไปหล่อเลี้ยงบริเวณตอนกลางของประเทศไทยค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ปริมาณความชื้นในอากาศมีน้อย และมีฝนน้อยลง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค รวมถึงเตรียมความพร้อมในการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน และพร้อมที่จะขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงทันที หากสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการ
โดยผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำปาง เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 6 แห่ง และอ่างเก็บน้ำจำนวน 7 แห่ง
เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 3 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.กาญจนบุรี และ สุพรรณบุรี
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.หัวหิน มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ราชบุรี และ เพชรบุรี
ทั้งนี้ อีก 10 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน โดยหากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป
พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น