รวบกลางทะเลต่างด้าวใช้หนังสือคนประจำเรือปลอม

นายบัญชา  สุขแก้ว  รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่างศิลา (ชลบุรี)  กองตรวจการประมง ว่าขณะเจ้าหน้าที่นำเรือตรวจตรวจการประมงทะเล 213 ออกปฏิบัติการตรวจปราบปรามและควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย บริเวณอ่าวแสมสาร ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นการตรวจตามแผนปฏิบัติการปกติและตรวจเพื่อดูแลคุ้มครองแรงงาน  ปรากฏพบเรืออวนลากคู่พบแรงงานต่างด้าว จำนวน 11 ราย บนเรือประมงอวนลากคู่ และพบว่ามีการใช้หนังสือคนประจำเรือสำหรับแรงงานต่างด้าว (Seabook) ปลอม  

นอกจากนั้นยังมีการขยายผลเข้าตรวจสองต่อเนื่องและพบการใช้เอกสารปลอมในลักษณะเดียวกัน  จำนวน 4 ราย จึงได้ออกคำสั่งเรียกเรือประมง กลับเข้าฝั่ง และพบแรงงานต่างด้าวใช้เอกสารปลอมจริง ซึ่งทั้ง 2 กรณี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฐาน นำผู้ต้องหาและของกลาง ส่งยัง สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป รวมเรืออวนลาก 2 คู่ (เรือ 4 ลำ) และแรงงาน 15 รายต่อไป

โดยทั้ง 2 กรณีที่มีการจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำความผิดพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 83 ฐานความผิด : เป็นเจ้าของเรือใช้แรงงานต่างด้าวทำงานบนเรือโดยไม่มีหนังสือคนประจำเรือ ซึ่งต้องได้รับโทษตามมาตรา 153  ปรับ 400,000 – 800,000 บาท ต่อคนประจำเรือหนึ่งคน ซึ่งกรณีนี้ เจ้าของเรือประมงอวนลากคู่ เคสที่ 1 มีแรงงานต่างด้าวใช้เอกสารปลอม 11 ราย ต้องเสียค่าปรับไม่ต่ำกว่า 4,400,000 บาท  

ส่วนอวนลากคู่ เคสที่ 2 มีแรงงานต่างด้าวใช้เอกสารปลอม 4 ราย ต้องเสียค่าปรับไม่ต่ำกว่า 1,600,000 บาท และมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมด้วย อีกทั้งกรมประมงจะดำเนินการมาตรการทางการปกครองโดยเพิกถอนใบอนุญาตทำการประมงของเจ้าของเรือ และเจ้าของเรือจะเป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 39 ขาดคุณสมบัติในการได้รับใบอนุญาตทำการประมงในรอบถัดไป เป็นเวลา 5 ปี และกรมประมงจะขยายผลติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามการดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยในส่วนของแรงงานภาคการประมง มีการประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการแรงงานประมงที่เจ้าของเรือประมงจะต้องดำเนินการไว้อย่างชัดเจนทั้งค่าจ้าง  เงินตอบแทน  หลักประกันสุขภาพ  วันหยุดพักผ่อน เวลาทำงาน อาหารน้ำดื่ม ที่พัก ฯลฯ และหากเจ้าของเรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษทางกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างด้าวบนเรือประมง ซึ่งจะต้องมีหนังสือคนประจำเรือ (seabook) เพื่อบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในระบบที่รัฐสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงเป็นการป้องกันการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ที่ผ่านมานายเฉลิมชัย  ศรีอ่อน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขั้นในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยใช้หลัก 3 ป. คือ ป้อง ปราม และปราบ ซึ่งที่ผ่านมากรมประมงได้ดำเนินการในเรื่องของการควบคุมเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญการทำประมงผิดกฎหมายและแรงงานประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง