แนะฟื้นฟู-ทยอยจ่ายเงินสหกรณ์กษ.แทนใช้ทุนเรือนหุ้น

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เดินหน้าเร่งตรวจสอบยอดเงินถูกยักยอก สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ขณะที่ผู้ถือหุ้นสหกรณ์ กังวลใจ หากจะนำทุนเรือนหุ้นไปจ่ายทดแทนเงินที่ถูกยักยอกแนะให้จัดทำแผนฟื้นฟูและทยอยจ่ายตามเวลาที่กำหนดในแผน

นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เปิดเผยว่า  เจ้าหน้าที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังคงร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดตรวจสอบจำนวนเงินที่ถูกยักยอกให้ครบถ้วน โดยล่าสุดที่ตรวจสอบพบความเสียหาย 491 ล้านบาทซึ่งยักย้ายเงินจากบัญชีเงินฝากของสมาชิก 85 ราย แต่มีสมาชิกบางคนที่ยังไม่มายืนยันยอดเงินฝากจึงสั่งการให้ทางสหกรณ์ออกหนังสือไปถึงสมาชิกเพื่อให้มายืนยันยอดจึงจะทราบความเสียหายที่แท้จริงซึ่งกำหนดเวลาให้เสร็จในวันที่ 15 เมษายน



ส่วนการดำเนินคดีได้รับรายงานว่า พนักงานสอบสวนสน. นางเลิ้งออกหมายจับผู้กระทำผิด 2 คนแล้วคือ นางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ผู้จัดการสหกรณ์และ นางศิริพร รัตนปราการ หัวหน้าฝ่ายการเงิน ฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง โดยพ.ต.อ. สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับการสน.นางเลิ้งกำชับใช้ฝ่ายสอบสวนอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบซึ่งประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนได้ แม้มีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่พร้อมอำนวยความสะดวกเพื่อความรวดเร็วและเร่งคลี่คลายคดี

นอกจากนี้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์เตรียมประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับการให้คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เป็นคดีพิเศษตามข้อสั่งการของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย

นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ซึ่งรมช. มนัญญาสั่งการให้ประชุมและเป็นประธาน ตนเองอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ และมีความกังวลว่า ผลกระทบจากการยักยอกเงินครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะสมาชิกที่ถูกแอบถอนเงินออกไป แต่กระทบถึงสมาชิกทุกคน เงินที่ถูกยักยอกไม่สูญอยู่แล้ว ทางสหกรณ์ต้องจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย 

หากจะนำกำไร 151 ล้านบาทมาจ่ายคืนย่อมทำได้ แต่ที่เหลืออีก 340 ล้าน หากจะนำมาจากทุนเรือนหุ้นซึ่งมีอยู่ 1,574 ล้านบาท ย่อมกระทบถึงเงินลงทุนในหุ้นของสมาชิกอื่นๆ ด้วย ดังนั้นในที่ประชุมเมื่อวานนี้จึงเสนอให้คณกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ทำแผนฟื้นฟู โดยจ่ายเงินที่ถูกยักยอกไปส่วนหนึ่งก่อน แล้วที่เหลือทยอยจ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดพร้อมดอกเบี้ย โดยนำกำไรจากการปล่อยกู้ของสหกรณ์ซึ่งคิดดอกเบี้ย 6% มาจ่ายซึ่งจะกระทบต่อสมาชิกทุกคนน้อยที่สุด

ส่วนตนเห็นว่า ต้องพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ให้สมาชิกตรวจสอบยอดเงินและที่กรมตรวจสบัญชีสหกรณ์ใช้ตรวจสอบการฝากถอนของสหกรณ์เนื่องจากอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทำผิดใช้ Low technology คือ พิมพ์ยอดเงินและดอกเบี้ยในบัญชีเงินฝากของสมาชิกด้วยพิมพ์ดีดไฟฟ้า แทนการพิมพ์จากระบบคอมพิวเตอร์ของสหกรณ์ หากต่อไปผู้ทุจริตใช้ High technology มากระทำผิดจะเสียหายมากกว่านี้








ความคิดเห็น