"สทนช."เอ็มโอยูมช.ร่วมจัดการน้ำภาคเหนืออย่างยั่งยืน

"สทนช."จับมือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงนามเอ็มโอยูร่วมขับเคลื่อนการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือ หนุนใช้งานวิจัยและพัฒนาคนสู่การใช้ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน


ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงนามบันทึกความเข้าใจการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือด้วยข้อมูลงานวิจัย และการพัฒนาบุคลากรนำไปสู่การใช้ทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืนของประเทศไทย ร่วมกับ ศาสตราจารย์ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม (มช.) โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วินิตา บุณโยดม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นพยาน และนายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ รักษาราชการแทน รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารจาก สทนช. และ มช. เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมพระยา ศรีวิสารวาจา ชั้น 1 สำนักงานมหาวิทยาลัย 1 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น จัดขึ้นเพื่อบูรณาการความร่วมมือให้เกิดการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ ด้วยข้อมูล งานวิจัย และการพัฒนาบุคลากร นำไปสู่การใช้ทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืนของประเทศไทย รวมไปถึงรวมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 


เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความสามารถของทั้งสองหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผล สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน และสื่อสาร เผยแพร่ข้อมูลเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อสร้างการรับรู้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) พร้อมทั้งบูรณาการสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้กับภาคเอกชน ภาคชุมชน และภาคประชาชน ประกอบกับการสนับสนุนข้อมูลและเชื่อมโยงระบบสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ


ดร.สุรสีห์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีความประสานสอดคล้องกันในทุกมิติรวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลทำให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต ทำให้การพัฒนาด้านเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่ง


“การลงนามบันทึกความเข้าใจการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือ ด้วยข้อมูล งานวิจัย และการพัฒนาบุคลากรนำไปสู่การใช้ทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืนของประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันดำเนินการศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ด้านทรัพยากรน้ำ เพื่อใช้วิเคราะห์บริบทและสถานการณ์ด้านการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งถือเป็นการยกระดับการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน ในการขับเคลื่อนการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และจะนำองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาด้านต่าง ๆ มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อไป”เลขาธิการ สทนช.กล่าว









ความคิดเห็น