"สทนช."จับตาสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง เตรียมให้ความช่วยเหลือลดความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร เฝ้าระวังอุทกภัยในช่วงฝนตกหนัก
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยรองเลขาธิการ สทนช. เปิดเผยผลการประชุมว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่การเพาะปลูกพืชฤดูฝนแล้ว ประมาณ 24 ล้านไร่ จากแผนทั้งหมดจำนวน 87 ล้านไร่ แต่พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศยังมีค่าความชื้น ในดินน้อย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีษะเกษ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา จ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช
การประชุมวันนี้ได้เน้นย้ำในเรื่องของการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรไว้แล้ว โดยพื้นที่ในเขตชลประทานจะมีการสูบน้ำส่งเข้าไปในพื้นที่ สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปสำรวจเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าในระยะนี้จะมีปริมาณฝนตกกระจายในบริเวณพื้นที่ที่มีความชื้นน้อย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกเพิ่มขึ้นได้ในบางพื้นที่
การรับมือสถานการณ์น้ำในฤดูฝนปีนี้ ภาครัฐได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน โดยได้มีการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างครบถ้วน รวมถึงได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ ในแต่ละจังหวัดได้มีการดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการตั้งคณะทำงานของจังหวัดเพื่อเตรียมรองรับปริมาณฝนที่จะอาจจะตกหนักในแต่ละพื้นที่
นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับกระทรวงและหน่วยงานปฏิบัติ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. 67 ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยด้วย โดยการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่และครบครันจะช่วยให้สามารถเผชิญเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแผน ช่วยลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และหากกรณีเกิดภัยแล้ว จะสามารถเข้าไปช่วยดูแลฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น