“อรรถกร”กำชับชลประทานการ์ดสูงรับมือ”วิภา”

“อรรถกร”กำชับชลประทานการ์ดสูงรับมือ”วิภา” หวั่นน้ำท่วมเหนือ อีสาน ล่าสุดกระทบ 6 จังหวัด คาดน้ำล้นตลิ่ง-แนวโน้มเพิ่มสูงภายใน 1-2 วัน

นายอรรถกร ศิริลัทยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้กำชับกรมชลประทานเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม จากอิทธิพลของ พายุวิภาที่ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 22 - 24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก 



กรมชลประทานรายงานสถานการณ์ว่า ปัจจุบัน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน นครพนม และสกลนคร คาดว่าจะเกิดน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นภายใน 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ จังหวัดน่านจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม มวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งสามารถรองรับปริมาณน้ำจากพายุวิภาได้ทั้งหมด

สำหรับการปฏิบัติงาน ได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมทรัพยากรธรนี กรมทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์พายุในครั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบ และ ครม.รับทราบ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ โดยได้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบ ต่อประชาชนให้มากที่สุด ดังนี้

1.จากคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จำนวน 886 จุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนข่าวสารให้กับประชาชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการร่วมกัน

2. พร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับปริมาณน้ำที่คาดว่าจะไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ โดยปัจจุบันน้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีปริมาณรวม 20,103 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 55% ยัง สามารถรับน้ำได้อีก 16,357 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 45%

3. ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของอาคารชลประทานและสถานีโทรมาตร 4. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยมีการขุดลอกคลองโดยมีปริมาณดินขุด จำนวน 8.18 ล้าน ลบ.ม. และกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ จำนวน 1.36 ล้านตัน 5. เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ จำนวน 1,669 หน่วย ปัจจุบันได้ดำเนินการสนับสนุนและติดตั้งแล้วจำนวน 141 หน่วย ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ จำนวน 114 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 24 ชุด  เครื่องจักรกลอื่นๆ จำนวน 3 หน่วย





ความคิดเห็น